http://yangpara.igetweb.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

 หน้าแรก

 สินค้า

 บทความ

 โพสได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเกษตร

 สั่งซื้อสินค้า

สถิติ

เปิดเว็บ10/12/2010
อัพเดท19/09/2018
ผู้เข้าชม173,167
เปิดเพจ276,092
สินค้าทั้งหมด1

บริการ

ปุ๋ยอินทรีย์ตราวังใหญ่

ปุ๋ยชีวภาพNHPนาโน(เฉพาะยางพารา)

สนใจใช้&สมัครตัวแทน

เกี่ยวกับเรา

ความรู้ยางพารา

การปลูกพืชชนิดต่างๆ

โรคพืชและศัตรูพืช

iGetWeb.com
AdsOne.com

การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารสัตว์
ประมาณ 94 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตข้าวโพดใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ของประเทศ และมีความต้องการเพิ่มขึ้นทุกปี บางปีต้องมีการนำเข้า ปัจจุบันประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ปลูกเป็นข้าวโพดพันธุ์ลูกผสม ซึ่งให้ผลผลิตสูง

ปัญหาของพืช ข้อจำกัด และโอกาส • พื้นที่ปลูกมีแนวโน้มลดลง แต่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น • ประสิทธิภาพการผลิตต่ำเนื่องมาจากฝนทิ้งช่วง ดินเสื่อม และการปนเปื้อนสารพิษอะฟลาทอกซินช่วงต้นฤดู • มีการระบาดของโรคและแมลงในช่วงปลายฝน • ผลผลิตกระจุกตัวในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม • เมล็ดพันธุ์ดีของภาคเอกชนมีราคาแพง

พันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ข้าวโพดพันธุ์ผสมเปิด นครสวรรค์ 1 ประเภทพันธุ์ : พันธุ์รับรอง วันที่รับรอง : 11 กรกฏาคม 2532 ลักษณะทางการเกษตร : 1. ผลผลิตเฉลี่ยต้นฤดูฝน 786 กิโลกรัมต่อไร่ 2. ผลผลิตเฉลี่ยปลายฤดูฝน 656 กิโลกรัมต่อไร่ 3. อายุเก็บเกี่ยว 10-120 วัน 4. วันออกไหม 52 วัน 5. ความสูงของต้น 196 เซ็นติเมตร 6. ความสูงของฝัก 102 เซ็นติเมตร 7. ความกว้างของใบ 3.6 เซ็นติเมตร 8. ความยาวของใบ 88 เซ็นติเมตร 9. การเป็นโรคราน้ำค้าง 7.7 เปอร์เซ็นต์ 10. จำนวนต้นล้ม 5.4 เปอร์เซ็นต์ 11. การหุ้มของเปลือกฝัก (1-5) คือ 1.9 12. เปอร์เซ็นต์กระเทาะ 78.7% 13. สีของซังขาวปนแดง 14. สีและชนิดของเมล็ดส้มเหลืองกึ่งหัวแข็ง ลักษณะดีเด่น : 1. ผลผลิตสูงทั้งในสภาพการปลูกต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน คือผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ SW1(MMS)C2F2 ประมาณ 10% และเมื่อปลูกในปลายฤดูฝนจะให้ผลผลิตสูงกว่าถึง 21% 2. จะมีความสามารถในการปรับตัวได้ดีกับสภาพแวดล้อมที่ แตกต่างกัน พื้นที่แนะนำสามารถใช้แนะนำให้เกษตรกรปลูกได้ตลอดปี ในเขตปลูกข้าวโพดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในการปลูกข้าวโพด ปลายฤดูฝนให้ได้ผลผลิตสูง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสารพิษ Aflatoxin ในข้าวโพดที่ปลูกต้นฤด

สุวรรณ 1 ประเภทพันธุ์ : พันธุ์รับรอง วันที่รับรอง : พ.ศ. 2518 ลักษณะเด่น : ผลผลิตสูง ต้านทานโรคราน้ำค้าง ผลผลิต : ต้นฤดูฝน 717 กก./ไร่ ปลายฤดูฝน 543 กก./ไร่ ลักษณะประจำพันธุ์ : ความสูงต้น 195 - 210 ซม. อายุวันออกไหม 54-55 วัน อายุเก็บเกี่ยว 110-120 วัน
เมล็ดสีส้มเหลือง ชนิดหัวแข็งและซังมีสีขาว ความต้านทานโรค : ต้านทานโรคราน้ำค้างได้ดี ฤดูปลูกที่เหมาะสม : เดือนเมษายน-สิงหาคม

สุวรรณ 5 (มก.) ประเภทพันธุ์ : พันธุ์รับรอง วันที่รับรอง : 19 เมษายน 2537 ลักษณะดีเด่น : 1. ให้ผลผลิตเมล็ดสูง เฉลี่ยอยู่ในช่วง 907-945 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งสูงกว่าพันธุ์สุวรรณ 1 (7%) สุวรรณ 3 (4%) และพันธุ์นครสวรรค์ 1 (16%) 2. ให้ผลผลิตน้ำหนักต้นสดและน้ำหนักแห้งสูง เหมาะในการทำเป็นพืชอาหารสัตว์ 3. สามารถปรับตัวได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป 4. มีลักษณะทางการเกษตรอื่น ๆ ที่ดี เช่น มีระบบราก และลำต้นแข็งแรง ไม่หักล้มง่าย และต้านทานโรคราน้ำค้าง และ โรคทางใบอื่น ๆ ด้วย 5. เกษตรกรสามารถเก็บเมล็ดไว้ใช้ทำพันธุ์ได้นาน 1-3 ชั่ว โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของนักวิชาการ ลักษณะทางการเกษตร : 1. ผลผลิตเฉลี่ย 907-945 กิโลกรัมต่อไร่ 2. อายุเก็บเกี่ยว 110-120 วัน 3. วันออกดอก 55 วัน
4. ความสูงของต้น 192 เซนติเมตร 5. ตำแหน่งความสูงของฝัก 109 เซนติเมตร 6. การเป็นโรคราน้ำค้าง 0.41 เปอร์เซ็นต์ 7. ความแข็งแรงของระบบราก 2.0 (1= ดีที่สุด, 5= ดีน้อยที่สุด) 8. จำนวนต้นหักล้ม 0.6 เปอร์เซ็นต์ 9. การหุ้มของเปลือกฝัก 1.2 เปอร์เซ็นต์ 10. ความต้านทานโรคทางใบ 2.3 เปอร์เซ็นต์
11. สีของซังขาว 12. สีและชนิดของเมล็ด ส้ม เหลือง หัวแข็งถึงกึ่งหัวแข็ง

ข้าวโพดพันธุ์ลูกผสม ซีพีดีเค 888

• ความสูงต้นเฉลี่ย 210 ซม.

• ความสูงฝักเฉลี่ย 120 ซม. • อายุออกไหม 58 วัน

• อายุเก็บเกี่ยว 110-120 วัน • ผลผลิต 1,000 กก./ไร่

• เปอร์เซนต์กะเทาะเมล็ดเฉลี่ย 81%

• การเป็นโรคราน้ำค้าง ไม่ต้านทาน

• การเป็นโรคราสนิม ไม่ต้านทาน

แปซิฟิค 983

• ความสูงต้นเฉลี่ย 190 ซม.

• ความสูงฝักเฉลี่ย 100 ซม.
• อายุออกไหม 55 วัน

• อายุเก็บเกี่ยว 110-120 วัน

• ผลผลิต 1,100 กก./ไร่

• เปอร์เซนต์กะเทาะเมล็ดเฉลี่ย 80%

• การเป็นโรคราน้ำค้าง ไม่ต้านทาน

• การเป็นโรคราสนิม ไม่ต้านทาน

การปลูก
ฤดูปลูก ต้นฤดูฝน เดือนเมษายน-พฤษภาคม
ปลายฤดูฝนเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
การเตรียมดิน • ไถด้วยผาลสาม 1 ครั้ง ลึก 20-30 เซนติเมตร ตากดิน 7-10 วัน พรวนด้วยผาลเจ็ด 1 ครั้ง ปรับระดับดินให้สม่ำเสมอ แล้วคราดเก็บ เศษซากราก เหง้า หัวและไหลของวัชพืชข้ามปีออกจากแปลง • วิเคราะห์ดินก่อนปลูก
ถ้าดินมีความเป็นกรดด่างต่ำกว่า 5.5 ก่อนเตรียมดิน ควรหว่านปูนขาว อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ สำหรับดินร่วนทราย และอัตรา 200-400 กิโลกรัมต่อไร่ สำหรับดินร่วน ดินร่วนเหนียว หรือดินเหนียว แล้วไถกลบ ถ้าดินมีอินทรียวัตถุต่ำกว่า 1.0 เปอร์เซ็นต์ ก่อนเตรียมดินให้หว่านปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่ย่อยสลายดีแล้ว อัตรา 500 กิโลกรัมต่อไร่ สำหรับดินเหนียวและดินร่วนเหนียว และอัตรา 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ สำหรับดินร่วนและดินร่วนทราย หรือหว่านพืชบำรุงดิน เช่น ถั่วเขียว อัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ หรือ ถั่วแปบ อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วไถกลบในระยะเริ่มติดฝักหรือหลังเก็บเกี่ยวพืชบำรุงดิน

วิธีการปลูก
ปลูกด้วยแรงงาน • ระยะระหว่างแถว 75 เซนติเมตร ระยะระหว่างหลุม 25 เซนติเมตร อัตราปลูก 8,500 ต้นต่อไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ 3-4 กิโลกรัมต่อไร่ ใช้จอบขุดเป็นหลุม หรือรถไถเดินตามหรือแทรกเตอร์ติดหัวเปิดร่อง หยอดเมล็ดหลุมละ 1-2 เมล็ด กลบดินให้แน่น • เมื่อข้าวโพดอายุประมาณ 14 วันหลังงอก ถอนแยกให้เหลือหลุมละ 1 ต้น ปลูกด้วยเครื่องปลูก • ใช้รถแทรกเตอร์ลากจูงเครื่องปลูกพร้อมใส่ปุ๋ยติดท้าย ปรับให้มีระยะระหว่างแถว 75 เซนติเมตร ระยะระหว่างหลุม 20 เซนติเมตร จำนวน 1 ต้นต่อหลุม หรืออัตราปลูกประมาณ 10,600 ต้นต่อไร่ ใช้เมล็ด 2-3 กิโลกรัมต่อไร่ โดยไม่ถอนแยก

การให้ปุ๋ย • ดินเหนียวสีดำ ถ้ามีฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์สูงกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 21-0-0 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 46-0-0 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ โดยโรยข้างแถวหลังปลูก 20-25 วัน ถ้าฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ต่ำกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 20-20-0 อัตรา 40 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 16-20-0 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ รองก้นร่องพร้อมปลูก และให้ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 21-0-0 อัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ โรยข้างแถวหลังปลูก 20-25 วัน แล้วพรวนดินกลบ • ดินเหนียวสีแดง ดินเหนียวสีน้ำตาล หรือดินร่วนเหนียวสีน้ำตาล ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 หรือ 16-16-8 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ รองก้นร่องพร้อมปลูก และให้ปุ๋ยเคมีสูตร 21-0-0 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 46-0-0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ โรยข้างแถวหลังปลูก 20-25 วัน แล้วพรวนดินกลบ • ดินร่วน หรือดินร่วนทราย ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 หรือสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ รองก้นร่องพร้อมปลูก และปุ๋ยเคมีสูตร 21-0-0 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ โรยข้างแถวหลังปลูก 20-25 วัน แล้วพรวนดินกลบ

 

Tags : การปลูกข้าวโพดหวาน การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

view

 หน้าแรก

 บทความ

 เว็บบอร์ด

 ติดต่อเรา

view